
แบตเตอรี่ ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานหลักในกรณีที่เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงาน เป็นแหล่งจ่ายพลังงานสำรองในกรณีที่เครื่องยนต์ทำงานแล้ว การเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ขณะเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานเป็นการทำร้ายแบตเตอรี่อย่างหนึ่ง เพราะโดยปกติเมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เท่านั้น แต่ถ้าประสิทธิภาพการทำงานของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์)ลดลง รถยนต์จะใช้ไฟจากแบตเตอรี่แทนเพราะไดชาร์จไม่สามารถผลิตกระแสไฟได้พอ เพราะฉะนั้นแบตเตอรี่จะมีอายุสั้น หรือยาว จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ด้วย
ปัจจุบันแบตเตอรี่ที่มีขายในประเทศไทยมีอยู่ 3 ประเภท
- แบตเตอรี่ชนิดน้ำ คือ แบตเตอรี่ที่ต้องมีการเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ เนื่องจากมีการระเหยตัวของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่สูง แบตเตอรี่ชนิดน้ำต้องการ การบำรุงรักษาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์
- แบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อย(Low maintenance) คือ แบตเตอรี่ที่ยังต้องมีการเติมน้ำกลั่นแต่ไม่บ่อยเท่ากับ “แบตเตอรี่ชนิดน้ำ” เพราะแบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อยมีการระเหยตัวของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ต่ำจึงไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย แบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อยต้องการ การบำรุงรักษาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 3 เดือน
- แบตเตอรี่ชนิดไม่ต้องบำรุงรักษา(Maintenance free) หรือที่คนทั่วไปเข้าใจผิดว่ามันคือ”แบตแห้ง” จริงๆแบตเตอรี่ชนิดนี้ยังไม่ใช่แบตแห้งอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน แต่ที่คนเข้าใจผิดกันก็เพราะว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้ไม่มีรูให้เติมน้ำกลั่น เป็นแบตเตอรี่ที่ปิดสนิท คนเลยเข้าใจกันว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้เป็นแบตเตอรี่แห้ง ที่เป็นเช่นนั้นเพราะแบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อยมีการระเหยของน้ำกลั่นที่ต่ำมาก ทำให้ตลอดอายุการใช้งานจึงไม่ต้องมีการเติมน้ำกลั่น หมดปัญหาเรื่องการบำรุงรักษา และปัญหาน้ำกรดในแบตเตอรี่ล้นออกมากัดสี และตัวถังรถยนต์ เนื่องจากเติมน้ำกลั่นมากเกิน

จากรูปเป็นวงจรพื้นฐานของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ เมื่อเปิดสวิทช์กุญแจรถยนต์ แบตเตอรี่จะถูกดึงกระแสไฟฟ้าประมาณ 8 – 9A ไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ และเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เริ่มมีการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆภายในรถยนต์แทนแบตเตอรี่ และไดชาร์จปกติจะมีแรงดันอยู่ประมาณ 13.9V – 14.5V และต่ำสุดไม่ควรต่ำกว่า 13.5V เพราะถ้าแรงดันไดชาร์จต่ำกว่า 13.5V จะทำให้แบตเตอรี่ถไม่ได้ถูกเติมไฟเข้า หรือมีไฟเติมเข้าแบตเตอรี่น้อยมาก จนทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง
บทความแนะนำ

การทำงานของระบบไฟฟ้า ในรถยนต์ Honda Civic FK
ระบบไฟฟ้า ในรถยนต์ Honda Civic FK ตรงแบตเตอรี่ จะมีเซนเซอร์ (กล่องสีดำ) ติดอยู่ตรงขั้วลบ เซนเซอร์นี้จะเป็นตัวส่งสัญญาณให้กล่อง ECU

ตรวจเเช็คแบตเตอรี่ ด้วยตนเอง ก่อนออกเดินทาง
แบตเตอรี่แต่ละประเภทจะมีวิธีการเช็คแบตเตอรี่ ที่ต่างกัน หากเป็นแบตเตอรี่น้ำ ดูตรงระดับหน้ำกลั่น ตรงขีด Lower หรือ Upper แต่หากเป็นแบตเตอรี่ประเภท SMF หรือ MF จะสามารถดูได้จากตาแมวแบตเตอรี่

แบตเตอรี่มีรูระบายอากาศ (ไอน้ำกรด) หรือไม่
แบตเตอรี่จะมีรูระบายอากาศอยู่ด้านข้างของฝาแบตเตอรี่ เพื่อระบายไอน้ำกรด จึงไม่ควรนำวัสดุใดๆ ไปอุดรูระบายอากาศ อาจทำให้แบตบวมได้