วิธีพ่วงแบตเตอรี่ อย่างปลอดภัย

เมื่อรถยนต์เกิดสตาร์ทไม่ติด ก็ต้องทำการพ่วงแบตเตอรี่กับรถคันอื่น และหลายคนที่พบปัญหาก็คือแล้วสายสีดำ กับสีแดง จะพ่วงกับขั้วแบตตรงไหนดี วันนี้เรามีมาบอกกันครับ

ขั้นตอนของการพ่วงแบตเตอรี่

นำสายพ่วงสีแดงมาต่อกับขั้วบวก (+) ของรถยนต์ที่แบตเตอรี่ไฟหมด จากนั้นก็นำหัวหนีบอีกข้างมาต่อเข้ากับขั้วบวก (+) ของรถอีกคันที่มีแบตเตอรี่ไฟเต็ม
นำสายพ่วงสีดำ มาหนีบกับตัวเครื่องยนต์รถที่เป็นโลหะ ของรถยนต์ที่แบตเตอรี่ไฟหมด จากนั้นก็นำหัวหนีบอีกข้างมาต่อเข้ากับขั้วลบ (-) ของรถอีกคันที่มีแบตเตอรี่ไฟเต็ม
จากนั้นก็ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เลย ถ้าสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเกิดไม่ติด ลองเช็คที่ไดสตาร์ทดูว่าเสียหรือไม่ และลองขยับนิดหน่อย จึงค่อยลองสตาร์ทอีกที เมื่อสตาร์ทติดสตาร์ท ควรรีบนำรถไปเช็คแบตเตอรี่ทันที

ข้อควรระวังในการต่อพ่วงแบตเตอรี่

การพ่วงแบตเตอรี่ผิดวิธี หรือขาดความเข้าใจ อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหาย และอาจได้รับอันตรายได้ จึงควรระมัดระวัง ดังนี้

ตัวพ่วงสายสีแดงคือสายขั้วบวก (+) ส่วนตัวพ่วงสายสีดำ คือสายขั้วลบ (-)
ระวังอย่าให้ปลายหัวหนีบขั้วบวก กับ ขั้วลบ กระทบกัน และถ้าระบบไดร์สตาร์ทมีปัญหา ควรให้ผู้เชี่ยวชาญดูเพื่อความปลอดภัย
อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ ขณะกำลังต่อสายพ่วงแบตเตอรี่เด็ดขาด
อย่าให้สายพ่วงแบตเตอรี่ไปสัมผัสวัสดุใด ๆ ก็ตามที่สามารถทำให้เกิดประกายไฟได้เด็ดขาด
ควรตรวจเช็คกระแสไฟของแบตเตอรี่ก่อน เพราะแบตเตอรี่ที่มีขนาด 6 โวลต์ กับ 24 โวลต์ จะไม่สามารถมาต่อสายพ่วงร่วมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาด 12 โวลต์ได้
ก่อนทำการพ่วงสายแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ก่อนทุกครั้ง ดูสภาพตรงขั้วแบตเตอรี่ว่าสะอาดมั้ย เพราะถ้าสกปรกจะทำให้กระแสไฟหมุนเวียนไม่สะดวก และตัวแบตเตอรี่จะต้องสมบูรณ์ไม่แตกหรือเสียหายใด ๆ

หลายคนอาจมีคำถามว่า ทำไมไม่นำสายพ่วงไปคีบที่ขั้วลบแบตเตอรี่ ของรถคันที่สตาร์ทไม่ติด

เมื่อคีบขั้วสุดท้าย ถ้าใกล้แบตเตอรี่ และเกิดประกายไฟแบตเตอรี่จะระเบิดได้ ในพวกแบตเตอรี่น้ำ
เพื่อให้กราวด์วิ่งตรงไปลงตัวถังจะทำให้รถสตาร์ทติดง่าย ซึ่งจุดยึดกราวจะไม่ทำสี เพื่อไม่ให้เกิดฉนวนไฟฟ้า