แบตเตอรี่มีรูระบายอากาศ (ไอน้ำกรด) หรือไม่
แบตเตอรี่จะมีรูระบายอากาศอยู่ด้านข้างของฝาแบตเตอรี่ เพื่อระบายไอน้ำกรด จึงไม่ควรนำวัสดุใดๆ ไปอุดรูระบายอากาศ อาจทำให้แบตบวมได้
แบตเตอรี่ ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานหลักในกรณีที่เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงาน เป็นแหล่งจ่ายพลังงานสำรองในกรณีที่เครื่องยนต์ทำงานแล้ว การเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ขณะเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานเป็นการทำร้ายแบตเตอรี่อย่างหนึ่ง เพราะโดยปกติเมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมดจะใช้ไฟจากไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เท่านั้น แต่ถ้าประสิทธิภาพการทำงานของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์)ลดลง รถยนต์จะใช้ไฟจากแบตเตอรี่แทนเพราะไดชาร์จไม่สามารถผลิตกระแสไฟได้พอ เพราะฉะนั้นแบตเตอรี่จะมีอายุสั้น หรือยาว จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) ด้วย
จากรูปเป็นวงจรพื้นฐานของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ เมื่อเปิดสวิทช์กุญแจรถยนต์ แบตเตอรี่จะถูกดึงกระแสไฟฟ้าประมาณ 8 – 9A ไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ และเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไดชาร์จ(อัลเทอร์เนเตอร์) เริ่มมีการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อไปเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆภายในรถยนต์แทนแบตเตอรี่ และไดชาร์จปกติจะมีแรงดันอยู่ประมาณ 13.9V – 14.5V และต่ำสุดไม่ควรต่ำกว่า 13.5V เพราะถ้าแรงดันไดชาร์จต่ำกว่า 13.5V จะทำให้แบตเตอรี่ถไม่ได้ถูกเติมไฟเข้า หรือมีไฟเติมเข้าแบตเตอรี่น้อยมาก จนทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง
แบตเตอรี่จะมีรูระบายอากาศอยู่ด้านข้างของฝาแบตเตอรี่ เพื่อระบายไอน้ำกรด จึงไม่ควรนำวัสดุใดๆ ไปอุดรูระบายอากาศ อาจทำให้แบตบวมได้
รถยนต์ในปัจจุบันมีระบบ Start Stop System จึงต้องใช้แบตเตอรี่ AGM หรือ EFB
เซนเซอร์ขั้วลบแบตเตอรี่รถยนต์ หรือ IBS (Intelligent Battery Sensor) จะทำหน้าที่ควบคุมการชาร์จกระแสไฟเข้าแบตเตอรี่